วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทริปท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี, เที่ยวในเมืองเพชร

มาเที่ยวไทยกันเหอะ คราวนี้ไปเที่ยวในเมืองเพชรกัน โดยโปรแกรมคร่าวๆ มีดังนี้

8:00 วัดเขาบันไดอิฐ
10:00 วัดเกาะแก้วสุทธาราม
10:40 พระรามราชนิเวศน์ หรือพระราชวังบ้านปืน
12:00 - 17:00 หาดปึกเตียน


8:30
เรามาเที่ยวเมืองเพชรแห่งแรกกันที่วัดเขาบันไดอิฐ กันแต่เช้าเลย เนื่องจากตอนเช้าอากาศสดใสดี สูดกลิ่นอายบรรยากาศยามเช้า และสัมผัสความสงบเล็กน้อยก่อนเข้าเที่ยวตัวเมือง อันที่จริงแล้ว วัดเขาบันไดอิฐก้อตั้งอยู่ในตัวเมืองนี่แหล่ะ แต่ว่าอยู่ห่างจากตัวกลางเมืองมานิดหน่อย ลองมาดูประวัติของเมืองนี้กัน

นอกจากจะเป็นวัดที่เก่าแก่มากในสมัยอยุธยาแล้ว ในอดีตยังมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านวิชาอาคม ในช่วงที่หลวงพ่อแดง พระเกจิชื่อดังของจังหวัดเพชรบุรีเป็นเจ้าอาวาส ทำให้มีผู้เคารพนับถือและเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมาก แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีศิลปะปูนปั้นชั้นครูอันงดงามฝากไว้อยู่เหนือบันพระอุโบสถ และยังมีถ้ำให้ชมอีกมากเช่น ถ้ำพระอาทิตย์ ถ้ำพระจันทร์ ถ้ำสว่างอารมณ์ ถ้ำช้างเผือก และถ้ำดุ๊ค ซึ่งมาจากยุคโยฮันอัลเบิร์ต ผู้สำเร็จราชการเมืองบอร์นสวิค ประเทศเยอรมันที่เคยเดินทางมาเยือนจังหวัดเพชรบุรี และเที่ยวถ้ำแห่งนี้เอง..

10:00
ต่อจากวัดเขาบันไดอิฐมาเที่ยวกันต่อกลางใจเมืองเพชร ก้อไม่พ้นวัดอีกนั่นแหล่ะ ก้อเพราะเมืองเพชรบุรี เป็นเมืองที่มีวัดที่สำคัญมากมายและมีความเก่าแก่ทั้งนั้น วัดเกาะแก้วสุทธารามที่อยู่ในโปรแกรมนี้ก้อน่าสนใจเช่นกัน วัดนี้สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายราวปี พศ. 2200 ภายในวัดมีอุโบสถมีการก่อสร้างแบบก่ออิฐถือปูน ฐานแอ่นโค้งเป็นแหล่งรวมศิลปกรรมอันเก่าแก่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะ "ภาพจิตรกรรมฝาผนัง" ประกอบด้วย ภาพจักรวาลบนผนังหน้าพระประธาน ด้านหลังเป็นภาพผจญมาร และด้านข้างคือภาพเทพชุมนุม และพุทธประวัติสลับกับฉัตรและเจดีย์ ซึ่งเป็นภาพที่เด่นที่สุด หากสังเกตใกล้ๆ จะพบว่า ภาพเทพเหล่านั้นจะมีใบหน้าคล้ายคลึงแบบคนยุโรป เนี่ยแหล่ะครับงานศิลปกรรมของช่างเมืองเพชร ซึ่งมักจะสะท้อนเรื่องราวและสภาพสังคมในแต่ละช่วงเวลาไว้ในผลงาน ซึ่งแสดงถึงความเป็นเลิศของช่างได้เป็นอย่างดี

10:40
เที่ยวมา 3 วัดแล้วมาเที่ยวพระราชวังกันบ้าง พระรามราชนิเวศน์ หรือพระราชวังบ้านปืน ตั้งอยู่บนถนนราชดำิเนิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้สร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นพระราชนิเวศน์สำหรับประทับแรมในฤดูฝน สร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามว่าพระที่นั่งศรเพชรปราสาท และทรงเปลี่ยนเป็นพระรามราชนิเวศน์ในปี พศ. 2461 ใช้เป็นที่รับรองแขกเมืองในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนผู้กำกับลูกเสือ โรงเรียนฝึกหัดครูเกษตรกรรม โรงเรียนประชาบาลประจำตำบล

12:00-17:00
เมื่อชมความงามและความโอ่อ่าของพระรามราชนิเวศน์แล้ว ก้อมาสัมผัสลมเย็นๆ และรับกลิ่นอายของทะเลที่หาดปึกเตียน มากินอาหารมื้อเที่ยงกันที่นี่เลย รับลมทะเล ชิมไป เล่นน้ำไป โอว สุขใจจริงเชียว หรือจะพาลูกเล็กเด็กแดง จูงมือเดินเล่นชายหาด ไปดูรูปปั้นพระอภัยมณี นางผีเสื้อสมุทร สุดสาคร และม้านิลมังกร แอ๊คชั่นถ่ายภาพคู่กับรูปปั้นชีเปลือยก้อดูเข้าท่าดีพิลึก หรือหากอิ่มแล้วจะนอนบนเตียงผ้าใบที่ให้เช่าตามร้านอาหารริมหาด รอเวลาเย็นหรืออาทิิตย์อัสดง ค่อยกลับบ้าน นอนหลับฝันดี

ไม่มีความคิดเห็น: