วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

จังหวัดสุรินทร์

สุรินทร์ เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานจังหวัดหนึ่ง แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่นอนว่ามีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างไร อาศัยเพียงข้อสันนิษฐานของนักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี ตลอดจนคำบอกเล่าของผู้สูงอายุที่เล่าต่อๆ กันมา โดยเชื่อกันว่าเมืองสุรินทร์ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีล่วงมาแล้ว ในสมัยที่พวกขอมมีอำนาจอยู่ในบริเวณนี้ เมื่อขอมเสื่อมอำนาจลงเมืองสุรินทร์ได้ถูกทิ้งร้างจนกลายเป็นป่าดงอยู่นาน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2306 จึงปรากฏหลักฐานว่าหลวงสุรินทรภักดี (เชียงปุม) ซึ่งเดิมเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเมืองที ได้ขอให้เจ้าเมืองพิมายกราบบังคมทูลขอพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยามรินทร์ ย้ายหมู่บ้านจากบ้านเมืองที มาตั้งอยู่บริเวณบ้านคูประทาย บริเวณซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองสุรินทร์ในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นบริเวณที่มีชัยภูมิเหมาะสม มีกำแพงค่ายคูล้อมรอบ 2 ชั้น มีน้ำอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การประกอบอาชีพและอยู่อาศัย

ต่อมาหลวงสิรินทรภักดีได้กระทำความดีความชอบเป็นที่โปรดปราน จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านคูประทายเป็น "เมืองประทายสมันต์"และเลื่อนบรรดาศักดิ์หลวงสุรินทรภักดี เป็นพระสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ให้เป็นเจ้าเมืองปกครอง

ในปี พ.ศ. 2329 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ "เมืองประทายสมันต์" เป็น "เมืองสุรินทร์" ตามสร้อยบรรดาศักดิ์ของเจ้าเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์อยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 457 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 8,124 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ 4 อำเภอ คือ อำเภอเมืองสุรินทร์ ชุมพลบุรี ท่าตูม จอมพระ ปราสาท กาบเชิง รัตนบุรี สนม ศีขรภูมิ สังขะ สำโรงทาบ บัวเชด ลำดวน กิ่งอำเภอศรีณรงค์ กิ่งอำเภอพนมดงรัก กิ่งอำเภอเขวาสินรินทร์และกิ่งอำเภอโนนกิ่ง

อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดร้อยเอ็ด และมหาสารคาม
ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดศรีสะเกษ
ทิศใต้ ติดกับราชอาณาจักรกัมพูชา
ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดบุรีรัมย์
การเดินทาง
รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แล้วแยกเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ที่จังหวัดสระบุรีและเดินทางเข้าเส้นทางโชคชัย-เดชอุดม (ทางหลวงหมายเลข 24) ผ่านอำเภอนางรอง อำเภอปราสาท จากอำเภอปราสาทแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 214 ถึงตัวเมืองสุรินทร์ รวมระยะทาง 450 กิโลเมตร หรืออาจเดินทางจากกรุงเทพฯไปจังหวัดนครราชสีมา ต่อด้วยเส้นทางหมายเลข 226 ผ่านอำเภอจักราช ห้วยแถลง ลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ สู่จังหวัดสุรินทร์ รวมระยะทาง 434 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพฯ มีรถโดยสารประจำทางออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือถนนกำแพงเพชร 2 (หมอชิต)ไปจังหวัดสุรินทร์ทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2936-2852-66 www.transport.co.th

จากสถานีขนส่งจังหวัดสุรินทร์ ถนนจิตรบำรุง มีรถโดยสารประจำทางหลายสายดังนี้
สายสุรินทร์-รัตนบุรี, สุรินทร์-กาบเชิง-ช่องจอม, สุรินทร์-โคกกระชาย (อำเภอปราสาท), สุรินทร์-ร้อยเอ็ด (สายเก่า), สุรินทร์-ร้อยเอ็ด (สายใหม่)
สุรินทร์-นครราชสีมา, สุรินทร์-ศรีสะเกษ (ผ่านศรีขรภูมิ), สุรินทร์-กระโพ-ตากลาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 0 4451 1756
สายสุรินทร์-กรุงเทพฯ ติดต่อ บริษัท กิจการราชสีมาทัวร์ โทร. 0 4451 2161
สายอุบลราชธานี-สุรินทร์-นครราชสีมา-ระยอง ติดต่อ นครชัยแอร์ โทร. 0 4451 5151

รถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (สถานีหัวลำโพง) และสถานีบางซื่อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1690, 0 2223 7010 , 0 2223 7020 และสถานีรถไฟสุรินทร์ โทร. 0 4451 1295, 0 4451 5393 www.railway.co.th

เครื่องบิน สายการบินแอร์ อันดามัน เปิดบริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-สุรินทร์ ทุกวันจันทร์ พุธ พฤหัสบดีและเสาร์ วันละ 1 เที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2229 9555 www.airandaman.com

ระยะทางจากตัวเมืองไปยังอำเภอและกิ่งอำเภอต่างๆ
อำเภอกาบเชิง 58 กิโลเมตร
อำเภอจอมพระ 26 กิโลเมตร
อำเภอชุมพลบุรี 92 กิโลเมตร
อำเภอท่าตูม 52 กิโลเมตร
อำเภอบัวเชด 66 กิโลเมตร
อำเภอปราสาท 28 กิโลเมตร
อำเภอรัตนบุรี 70 กิโลเมตร
อำเภอลำดวน 25 กิโลเมตร
อำเภอศีขรภูมิ 32 กิโลเมตร
อำเภอสนม 50 กิโลเมตร
อำเภอสังขะ 49 กิโลเมตร
อำเภอสำโรงทาบ 51 กิโลเมตร
กิ่งอำเภอศรีณรงค์ 65 กิโลเมตร
กิ่งอำเภอพนมดงรัก 76 กิโลเมตร
กิ่งอำเภอเขวาสินรินทร์ 20 กิโลเมตร
กิ่งอำเภอโนนนารายณ์ 72 กิโลเมตร

ระยะทางจากจังหวัดสุรินทร์ไปยังจังหวัดใกล้เคียง
จังหวัดบุรีรัมย์ ระยะทาง 111 กิโลเมตร
จังหวัดยโสธร ระยะทาง 135 กิโลเมตร
จังหวัดร้อยเอ็ด ระยะทาง 137 กิโลเมตร
จังหวัดศรีสะเกษ ระยะทาง 143 กิโลเมตร
จังหวัดมหาสารคาม ระยะทาง 177 กิโลเมตร
จังหวัดนครราชสีมา ระยะทาง 198 กิโลเมตร

แหล่งข้อมูล : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น: